“ยาฉีดควบคุมความหิว” หรือ “ปากกาลดน้ำหนัก”

      การพยายามควบคุมน้ำหนักอย่างผิดวิธี เช่นการอดอาหาร
การงดอาหารจำพวกไขมันและแป้งแบบตัดขาด การรับประทานอาหารเฉพาะมื้อใดมื้อหนึ่ง หรือพฤติกรรมอื่นๆ เช่นการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาหรือความเครียดจะส่งผลกระทบกับร่างกายโดยตรง เพราะถึงแม้ว่าน้ำหนักจะลดลงแต่ก็เสี่ยงกับภาวะขาดสารอาหารและส่งผลกระทบให้น้ำตาลในเลือดต่ำลง และจะทำให้โหยอาหารมากขึ้นและส่งผลให้รับประทานมากขึ้น และส่งผลให้เกิดโรคต่างๆตามมาเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น

แบบไหนเรียกว่า “อ้วน” ?

ค่า BMI (Body mass index) จะเป็นค่าที่บอกว่า สมส่วน น้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน หรืออ้วนรุ่นแรง โดยจะใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป

 

“ยาฉีดควบคุมความหิว” คืออะไร?

                ยา Liraglutide (ลิรากลูไทด์) เป็นยาที่ฉีดเข้าไต้ผิวหนังโดยใช้ปากกา โดยสารชนิดนี้เป็นเปปไทด์โปรตีนที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน GLP-1 ที่มีอยู่แล้วในร่างกาย โดยฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกมาจากลำไส้หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ โดยมีฤทธิ์ส่งผลให้รู้สึกอิ่มนาน หิวน้อยลง กินลดลง ลดการกินจุกกินจิกระหว่างวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการผลิตน้ำตาลที่ตับและช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินที่บริเวณตับอ่อนและกล้ามเนื้อ

                โดยยานี้ควรใช้ภายไต้การดูแลของแพทย์ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤษติกรรมในการรับประทานอาหารอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ประสิทธิภาพในการคุมน้ำหนักดีขึ้น

“ยาฉีดควบคุมความหิว” เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่าหรือเท่ากับ 30 คือมีภาวะอ้วน
  • ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) 27-29 คือมีภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีปัญหาทางสุขภาพเช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก โดยไม่อยากกินยาลดความอ้วน หรือ ไม่อยากผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

ควรตรวจอะไรบ้างก่อนใช้ยาฉีดควบคุมความหิว

  • ตรวจดัชดีมวลกายและตรวจร่างกายโดยแพทย์
  • ระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) และ/หรือ น้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c)
  • ระดับไขมันในเลือด (Lipid profile) ประกอบด้วย Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL
  • ระดับฮอร์โมนควบคุมไทรอยด์ (TSH)
  • การทำงานของไต (Creatinine and eGFR)
  • การทำงานของตับ (Liver function test) ประกอบด้วย AST, ALT

วิธีใช้ยาควบคุมความหิว?

                แพทย์จะเป็นผู้บอกรายละเอียดขั้นตอนการใช้ยา และสาธิตการใช้ยาอย่างละอียด โดยการใช้ยาฉีดวันละครั้ง (แนะนำฉีดหลังมื้ออาหาร) โดยควรฉีดในเวลาใกล้เคียงกันทุกวัน โดยตำแหน่งที่ฉีดคือบริเวณไขมันไต้ผิวหนังหน้าท้องหรือด้านหน้าของต้นแขนหรือต้นขา

ขนาดของยา?

หากลืมฉีดยาทำอย่างไรดี?

หากลืมฉีดยาน้อยกว่า 12 ชั่วโมงให้ฉีดยาได้ทักทีที่นึกได้

 

หากลืมฉีดยามากกว่า 12 ชั่วโมงให้ฉีดยาในวันถัดไปตามเวลาปกติ

 

ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเองเพื่อชดเชยยาที่ลืมฉีด

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว

  • โรคทางครอบครวเป็น MEN2 (multiple endocrine neoplasia type 2) หรือ medullary thyroid cancer
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้ยากลุ่มอินซูลิน (Insulin) หรือยากลุ่ม Sulfonylurea เช่น Glipizide (Minidiab), Gliclazide (Diamicron), Glimepiride (Amaryl) เป็นต้น
  • ผู้ที่มีประวัตินิ่วในถุงน้ำดี (อาจจะทำให้ถุงน้ำดีอักเสบได้)
  • ผู้ที่ติดสุรา, ไตรกลีเซอรไรด์ในเลือดสูง, แคลเซียมในเลือดสูง เพราะอาจจะทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบได้
  • ภาวะขยาดน้ำ
  • ห้ามใช้ในเด็ก หรือหญิงตั้งครรภ์ที่ให้นมบุตร

อาการข้างเคียง

  • คลื่นไส้ (พบได้ 40%) ดังนั้นจึงต้องค่อยๆเพิ่มขนาดยา
  • ท้องเสีย หรือท้องผูก (20%)
  • อาเจียน (15%)
  • โดยอาหารเหล่านี้จะเกิดในช่วงสัปดาห์แรกๆและจะหายเองภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากได้รับยาอย่างต่อเนื่อง

 

การเก็บรักษายา

  • ยาที่ยังไม่ได้เปิดควรเก็บในตู้เย็น (2-8 Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็ง
  • หากเปิดใช้ครั้งแรกแล้วให้เก็บที่อุณหภูมิห้อง (ต่ำกว่า 30 Celsius) โดยหลังเปิดแล้วยาจะมีอายุ 1 เดือน
  • ควรสวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • ยาแต่ละด้ามควรใช้สำหรับผู้ป่วยรายเดียวเท่านั้น ไม่ควรใช้ร่วมกัน
Shopping Cart